เรื่องราวของ Zuma : ซูม่าเกิดจากความหลงใหลในอาหารญี่ปุ่นของเชฟคนหนึ่ง และความเชื่อของเขาที่ว่าลอนดอนคือจุดหมายอันสมบูรณ์แบบที่เขาจะพัฒนาและปรับปรุงอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมในสไตล์ของเขา การประชุมพบปะกันระหว่าง เรนเนอร์ เบคเคอร์ (Rainer Becker) และ อาจุน วานี (Arjun Waney) ไม่เพียงทำให้เกิดซูม่าสาขาแรกที่ไนท์สบริดจ์เมื่อปี 2545 เท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดความร่วมมือทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างมากและขยายไปทั่วโลก 

ซูม่าขยายตัวขึ้นอีกหลายสาขาในเมืองใหญ่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นฮ่องกง (2550) ดูไบ (2551) อิสตันบูล (2551) ไมอามี (2553) คาบสมุทรดาซ่า (2556) อาบูดาบี (2557) นิวยอร์ก (2558) โรม (2559) ลาสเวกัส (2560) และล่าสุดในบอสตัน (2562) ซูม่า กรุงเทพฯ เปิดบริการเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2554

ห้องอาหารซูม่าประกอบไปด้วยครัวหลักเพื่อปรุงอาหารจานหลัก เคาน์เตอร์ซูชิ และเตาโรบาตะสำหรับเมนูปิ้งย่างเพื่อนำเสนออาหารญี่ปุ่นสมัยใหม่เลิศรสและประณีตบรรจง เชฟเรนเนอร์ได้รับแรงบันดาลใจส่วนใหญ่มาจากการได้ทำงานในประเทศญี่ปุ่น และนำเอาปรัชญาการทำอาหารสมัยใหม่ ที่สง่างามและซับซ้อนมาใช้กับอาหารสไตล์อิซากายะ ซึ่งเป็นประสบการณ์รับประทานอาหารแบบง่าย ๆ ไม่เป็นทางการ เมนูอาหารของซูม่าจึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและไม่ถูกจัดว่าเป็นอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ ปรุงขึ้นในครัวสามส่วน คือครัวหลักที่ปรุงเมนูอาหารญี่ปุ่นร่วมสมัย ซูชิบาร์ที่ดูแลโดยเชฟซูชิโดยเฉพาะ และเตาโรบาตะ ซึ่งเป็นการปรุงอาหารที่มีที่มาจากวิธีการทำครัวของชาวประมงในภาคเหนือของญี่ปุ่น

และล่าสุดภายใต้การนำของ Head Chef : Cinzia Pernici ซูม่ามีเมนูใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามาเพื่อเติมเต็มประสบการณ์ของลูกค้าที่อยากจะสัมผัสอาหารญี่ปุ่นสไตล์ Contemporary Japanese Izakaya ของซูม่า

ห้องอาหารซูม่า ตั้งอยู่ที่ โรงแรมเซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ 

อีเมล: reservations@zumarestaurant.co.th ไลน์: @zumabangkok เว็บไซต์: www.zumarestaurant.com เฟซบุ๊ค: https://www.facebook.com/ZumaBangkok อินสตาแกรม: https://www.instagram.com/zumabangkok/