Flexible Plan  : ยืดหยุ่นได้บ้าง อย่ายึดติดกับแพลนมากเกินไป

สำหรับคนที่ชอบตารางแบบเป๊ะๆ อย่าเพิ่งหงุดหงิดไป เราไม่ได้ให้ฟรีรันขนาดนั้น แต่สำหรับเรา - - เรามักจะวางแผนแต่ละวันให้น้อยที่สุด เพราะถือเป็นการค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ กับสถานที่ที่เราตั้งใจไปเดินทางท่องเที่ยว เนื่องจากที่ที่จะไปเราปักหมุดไว้แล้วว่าอยากไป แต่การปล่อยจอยเดินไปเรื่อยๆ เพื่อซึมซับ หรือ อยู่ในบางที่นานบ้าง บางที่สั้นบ้าง มันก็ได้ฟีลอีกแบบ - - กลมๆ ก็คือ อาจจะแพลนทั้งทริปคร่าวๆ เอาไว้ก็ได้ ถ้าใครเครียดกับการเที่ยวแบบไม่มีแพลน

Be Early Bird : ตื่นให้เช้า และ อดทน

ถ้าไหว - - เพราะถ้าใครสายชิลล์ก็ข้ามข้อนี้ได้เลย เพราะการไปท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆ มักต้องพบเจอผู้คนมากมาย รวมถึงการต่อคิวและแออัดยัดเยียดในบางสถานที่ เช่นที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ร้านอาหารดัง ร้านช้อปปิ้งดัง เพราะงั้นมีความอดทนไว้หน่อย น่าจะดี - - หงุดหงิดไปก็หมดสนุก แถมถ้ามีเพื่อนผอง ครอบครัวร่วมทริปก็อาจจะกร่อยๆ ไปอีก

Slow Life : ช้าบ้างก็ได้

สโลว์ไลฟ์บ้างสำหรับบางครั้ง หรือ บางทริป เพื่อที่จะดื่มด่ำ และสัมผัสกับสิ่งต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาทั้งตาหูจมูกลิ้นกายใจ เพราะทุกการเดินทางมีอะไรที่น่าสัมผัส จดจำ และเรียนรู้อีกเยอะ…เยอะมากกว่าการไปเช็คอินทุกที่ที่เคนอื่นค้าว่าดี เพราะเราอาจจะเจอจุดอันซีน หรือร้านลับต่างๆ ด้วยตนเองก็ได้นะ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ต้องเที่ยวแข่งกับเวลาการลาพักที่น้อยนิด - - ก็ลองเมเนจชีวิตดู

Try Local Food : ลองของท้องถิ่น

ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ หรือต่างประเทศ การทดลองกินอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยลิ้มลอง มักเป็นความท้าทายเสมอ เค้าว่ากันว่าอาหารท้องถิ่น หรืออาหารพื้นบ้านต่างๆ สามารถสื่อให้เห็นถึงวัฒนธรรมของคนพื้นที่ได้เป็นอย่างดีเลยนะ ไม่ว่าจะในอาหารสามมื้อ ขนม หรือ แม้แต่ของฝากขึ้นชื่อ

Don’t be to tight : อย่างกงบจนเกินไป

แน่นอนล่ะ ว่าเรื่องการเงินมันก็เป็นเรื่องปัจเจกบุคคล - - และก็แน่นอนล่ะว่าทุกคนควรวางแผนการเงินของทริปไว้คร่าวๆ เอาให้ไม่เจ็บตัว แต่ได้ไปท่องเที่ยวทั้งที ก็ต้องยอมปนเปรอตัวเองด้วยอะไรที่แปลกใหม่ดูบ้าง ทั้งกับอาหารการกิน ที่พัก และวิธีการเดินทางในทริป และอย่างสมมติว่าคุณอยากจะประหยัดค่าเดินทางมากเกิน จนยอมรอ จนยอมเสียเวลา แล้วดันทำให้เกือบตก หรือตกเครื่องหรืออะไรทำนองนี้ รู้ไว้เถอะว่ามันไม่เวิร์ก

Losing is OK : หลงได้บ้าง มันไม่ผิด

การเดินทางไปไหนก็ตาม หลงได้ทั้งนั้น ท่องไว้ว่ามันไม่ผิด แค่อย่าหงุดหงิดให้อารมณ์เสีย ไม่ว่าจะไปเดี่ยว ไปคู่ ไปหมู่ - -  ถือว่าหลงแล้วได้เจอสิ่งใหม่ๆ แปลกหูแปลกตา เปลี่ยนบรรยากาศไปอีกแบบ คิดซะว่าเป็นการใช้เวลาชมบ้านชมเมือง หรือสถานที่ต่างๆ ที่เราไม่เคยมา แต่ถ้าเป็นโมเมนต์ที่จะตกรถตกเรือตกเครื่อง ก็ต้องรีบตั้งสติให้ไวหน่อยเท่านั้นเอง

Pack Light : แพคให้น้อย

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ายังไงของจำเป็นก็ต้องครบไม่ว่าจะตั๋วอะไรๆ เงินทอง เอกสารสำคัญ วีซ่า พาสปอร์ต รวมถึงยาประจำตัวต่างๆ นาๆ  - - แต่นอกนั้นน่ะ คิด ก่อน แพค…เพราะเราไม่รู้หรอกว่า ขากลับ อะไรจะงอกออกมาบ้าง ทั้งของที่ระลึก ของซื้อฝาก ของฝากซื้อ และของช้อปปิ้งบ้าๆ บอๆ อีกมาก แต่จากประสบการณ์ เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ต้องพะวงเรื่องของฝากให้มากหรอก เอาตัวให้รอดก่อน ณ จุดที่ต้องแพคทุกอย่างให้เรียบร้อยให้ได้ก่อนเดินทางกลับ

Seasons Change : ฤดูที่แตกต่าง 

เช็คอากาศทุกครั้งก่อนแพลนทริป เพราะถ้าอะไรๆ ไม่เป็นตามคาดขึ้นมา จะพาทริปหมดสนุก ไม่ว่าจะเป็นพวกหมวก เสื้อกันฝน ถุงมือ รองเท้าแบบต่างๆ จนถึงแว่นกันแดด นั่นขึ้นอยู่กับสถานที่และอากาศที่คุณจะไปพบเจอ เตรียมให้พร้อม ทำการบ้านซักหน่อยไม่เอาแบบเดาๆ ชีวิตจะได้ไม่เศร้า เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย

Travel Insurance : ประกันการเดินทาง

จำเป็นมากกว่าที่หลายคนคิด ราคาเริ่มต้นหลักร้อย ถ้ามีกำลังทำได้ ทำไว้หน่อยก็ดี โดยเฉพาะทริปไกลๆ หรือ ทริปต่างแดน เราไม่รู้หรอกว่าเราจะพลาด หรือ คนอื่นจะพลาด เอาง่ายๆ แค่ดันลื่มหกล้มปากแตก ขาหักแขนหัก หรือแย่กว่านั้นแบบป่วยฉับพลันแล้วอาการหนักขึ้นมาที่ต่างประเทศ...แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว หาตัวช่วยไว้สักหน่อยให้อุ่นใจ