The Killing Vote

โหวตโทษประหาร

By Wednesday Team
31.10.2566
42

The Killing Vote (โหวตโทษประหาร) เป็นซีรีส์แนวระทึกขวัญสืบสวนสอบสวน สามารถรับชมได้ที่ Prime Video เริ่มสตรีมตอนแรกวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งหมด 12 ตอน สามารถรับชมได้ทุกวันพฤหัสบดี สัปดาห์ละ 1 ตอน และ วันนี้เราจะมาเล่าว่าทำไม The Killing Vote ถึงน่าสนใจ

พล็อตเรื่องที่น่าติดตาม - จะเป็นอย่างไรถ้าคะแนนเสียงของคุณสามารถตัดสินชะตาของอาชญากรผู้ชั่วร้ายได้? คำถามนี้คือหัวใจสำคัญของพล็อตเรื่องใน The Killing Vote ผู้กำกับพัคชินอู เล่าเพิ่มเติมว่า “วันหนึ่งประชาชนได้รับข้อความ เป็นข้อความเกี่ยวกับการลงคะแนนเพื่อลงโทษประหารชีวิตอาชญากรที่ชั่วร้าย นี่เป็นเรื่องราวสุดระทึกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องออกไล่ล่าบุคคลปริศนาผู้อยู่เบื้องหลังการลงคะแนนโทษประหารชีวิตระดับชาติ ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องเผชิญกับภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกในการช่วยชีวิตอาชญากรที่สมควรตายจากการโหวตโทษประหารโดยบุคคลปริศนานี้ นี่จึงเป็นเรื่องราวที่ตื่นเต้นและแปลกใหม่ รวมถึงกระตุ้นความคิด”

ตัวละครที่น่าสนใจ - ตัวละครหลักทั้งสามของซีรีส์เรื่องนี้ล้วนมีความโดดเด่นและน่าสนใจ พัคแฮจิน เล่าถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจคิมมูชาน ตัวละครของเขาว่า “เขาติดอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าการลงโทษอาชญากรในลักษณะเช่นนี้เป็นสิ่งที่เหมาะสมหรือไม่ ผมคิดว่ามันน่าสนใจที่จะดูว่าเขาจะยังคงยึดมั่นในหลักการหรือเปลี่ยนเข้าสู่ด้านมืด” ส่วน พัคซองอุง เล่าว่า “ตัวละครของผมคือ ควอนซอกจู เขาดูมีความไม่ชัดเจนว่าเป็นคนดีหรือร้าย เขาเป็นนักวิชาการด้านกฎหมายที่มีชื่อเสียงและได้รับการตีพิมพ์หนังสือที่เป็นผลงานของเขา เขากลายมาเป็นนักโทษหลังจากที่มอบตัวจากสิ่งที่เขาได้ทำลงไปเมื่อลูกสาวเสียชีวิต” และนักแสดงคนสุดท้าย  อิมจียอน เล่าถึงตัวละครของเธอว่า “ตัวละครของฉันคือ จูฮยอน เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในหน่วยไซเบอร์ของสถานีตำรวจกรุงโซล ครั้งหนึ่งเธอเคยถูกมองว่าเป็นคนเก่งของทีม แต่เนื่องจากเธอกลายเป็นจอมแฉ จึงกลายเป็นคนน่ารำคาญ เธอเป็นตัวละครที่มีความเป็นมิตรและเข้าถึงได้แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่มืดมิด”

ถอดแบบจากเว็บตูนและเพิ่มเติมความสนุก - มีผลงานซีรีส์เกาหลีมากมายที่สร้างจากเว็บตูนเรื่องดัง และผู้ชมมักจะตื่นเต้นที่จะรอชมว่าผู้ผลิตจะดัดแปลงเรื่องราวจากเว็บตูนมาสู่ซีรีส์อย่างไร สำหรับ The Killing Vote เมื่อถามผู้กำกับพัคชินอู ว่าเวอร์ชั่นซีรีส์มีความแตกต่างจากเว็บตูนอย่างไรบ้าง เขาให้สัมภาษณ์ว่า “ซีรีส์ของเรามีความเข้มข้น เต็มไปด้วยเงื่อนงำและความลุ้นระทึก นักแสดงถ่ายทอดตัวละครของพวกเขาได้อย่างยอดเยี่ยม ดังนั้นผมคิดว่าเมื่อเปรียบเทียบกับตัวละครในเว็บตูน ตัวละครในซีรีส์ของเราจะดูมีความสมจริง อีกทั้งผู้เขียนบทของเราก็ดัดแปลงบทจากเว็บตูนมาสู่บทซีรีส์ได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน มีการเชื่อมโยงในจุดที่เหมาะสมและเพิ่มเติมความสนุกเข้าไปด้วย เราวางแผนที่จะทำซีรีส์เรื่องนี้มาพักใหญ่ๆแล้ว ดังนั้นเราจึงมั่นใจได้ว่ามันจะเป็นไปตามความคาดหวัง”

การโคจรกลับมาพบกันอีกครั้งของสองนักแสดงชาย - พัคแฮจิน และ พัคซองอุง เคยร่วมงานกันในปี 2560 จากซีรีส์เรื่อง Man to Man และแฟนๆต่างก็รอคอยที่จะได้เห็นทั้งคู่กลับมาแสดงร่วมกันอีกครั้ง พัคซองอุงเล่าว่า “ซีรีส์ Man to Man เป็นแนวตลก แต่สำหรับเรื่องนี้มีความจริงจังเข้มข้น ผมกับพัคแฮจินได้ปรึกษากันว่าเราจะแสดงออกมาแบบไหนดี พวกเราทุ่มเทและใส่ใจในรายละเอียดกันมาก แม้ในระหว่างการซ้อม พัคแฮจินก็ร้องไห้ออกมาจริงๆ และผมทึ่งในความทุ่มเทกับการเพิ่มน้ำหนักถึง 10 กิโลกรัมของเขาด้วย เขาเพิ่มทั้งน้ำหนักและกล้ามเนื้อ เน้นกินโปรตีน เพื่อให้ตัวละครของเขาดูสมจริง เราได้เจอกันบ่อยขึ้นเพราะซีรีส์เรื่องนี้ เราอ่านบทด้วยกัน ยิ่งไปกว่านั้นเรายังพยายามอ่านบทตัวละครของกันและกันด้วย เพื่อให้เข้าใจเรื่องราวและภาพรวมทั้งหมดได้ดีขึ้น” ทางด้านพัคแฮจิน เล่าว่า “คุณพัคซองอุงเหมือนพี่ชายแท้ๆของผมเลย ผมไม่มีพี่ชาย แต่คุณพัคซองอุงทำให้ผมรู้สึกอย่างนั้น ผมสามารถปรึกษาเรื่องต่างๆกับเขาได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการแสดงหรือเรื่องทั่วไป ผมดีใจมากๆที่ได้กลับมาร่วมงานกับเขาอีกครับ”

ความหมายของความยุติธรรม - ความยุติธรรมคือแก่นหลักของซีรีส์เรื่องนี้ ขณะที่บุคคลปริศนาภายใต้หน้ากากได้ปฏิบัติการโหวตคะแนนจากทั่วประเทศเพื่อตัดสินโทษประหารชีวิต ตัวละครอื่นๆก็ต้องทบทวนความหมายของความยุติธรรมในแบบฉบับของพวกเขา เมื่อถามนักแสดงแต่ละคนว่าพวกเขาจะทำอย่างไรถ้าได้รับข้อความให้เข้าร่วมการโหวตตัดสินโทษประหารชีวิตแบบในซีรีส์ แต่ละคนมีความเห็นที่แตกต่างกันไป อิมจียอน เผยว่า “ฉันคิดว่าฉันน่าจะระวังตัวและสงสัยไว้ก่อนว่าเป็นข้อความหลอกลวงอะไรหรือเปล่า แต่ถ้ามันเป็นจริงและกำหนดความยุติธรรมได้จริง ๆ ฉันคิดว่าฉันอาจจะเข้าร่วม” ส่วน พัคซองอุง กล่าวว่า “ผมเป็นคนไม่ค่อยสงสัยอะไร ดังนั้นผมคิดว่าผมน่าจะเข้าร่วมลงคะแนนด้วยทันที” สำหรับ พัคแฮจิน แสดงความเห็นว่า “ถึงแม้จะยืนยันได้ว่าเป็นการลงคะแนนที่ถูกต้องตามกฎหมาย ผมก็อาจจะยังลังเลว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ ถ้าผมลงคะแนนตัดสินให้ประหารชีวิต แล้วมันเกิดขึ้นจริง ผมอาจจะรู้สึกแย่จากความรู้สึกผิดทีหลัง ผมเป็นคนคิดมากและขี้กังวลครับ”

 

ที่เหลือก็คือหน้าที่ของพวกเราแล้ว ว่าจะสนุกไปกับซีรี่ส์เรื่องนี้ได้แค่ไหน?!

TAGS : -