All About Sunscreen!
เรารู้จักครีมกันแดดดีแค่ไหน?
It’s Time For Vacation - ซัมเมอร์ไทม์แบบนี้ใครๆ ก็โหยหาการพักผ่อนกันทั้งนั้น และ “ทะเล” ก็ยังคงเป็นช้อยส์ลำดับต้นๆ ของทุกคนเสมอมา ไม่ใช่แค่บิกินี่ ชุดเดินชายหาด หรือบีชแวร์สวยๆ แต่กันแดด ก็เป็นอีกหนึ่งไอเท็มคีย์หลักของทริปทะเลไปแล้ว (เพราะคงไม่มีใครอยากเอาผิวตัวเองไปเสี่ยงกับอันตรายจากแสงอาทิตย์อยู่แล้วจริงไหมล่ะ?) แต่...คำถามอยู่ที่ตอนนี้หลายๆ คนก็ยังคงสงสัยว่าจะเลือกใช้แบบไหนดี แล้วโพรดักท์แบบไหนที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเรา หรือทริปที่เรากำลังจะไปจอยมากที่สุด? นี่คือ 5 Facts สั้นๆ ที่อาจทำให้ทุกคนเลือกซื้อ หรือ เลือกใช้กันแดดได้ง่ายขึ้น
กันแดดตัว กับ กันแดดหน้าต่างกันไหม?
ตราบใดก็ตามี่ฟังก์ชั่นการใช้งานของมันยังป็นเรื่องของการป้องกันแสงอาทิตย์อยู่! เราก็ไม่จำเป็นต้องแบ่งซื้อชิ้นนึงสำหรับทาผิวหน้าหรืออีกชิ้นสำหรับทาตัวก็ได้ เพราะอย่างเดียวที่น่าจะต่างกันก็คงจะเป็นไซส์ของบรรจุภัณฑ์ล่ะมั้ง… แต่สำหรับเท็กซ์เจอร์ที่จะเหมาะกับผิวหนังแต่ละพาร์ทก็น่าจะเป็นอีกเรื่อง เพราะแน่นอนว่าเราก็ต้องการอะไรที่มันเบาและบางกว่ามาทาลงบนหน้าเพื่อความสบายผิว + ล้างออกง่ายอยู่แล้ว
แล้วแบบ Physical แตกต่างกับแบบ Chemical ยังไง?
รูปแบบการทำงานของกันแดด จริงๆ แล้วมีอยู่ 2 อย่าง คือสะท้อนแดดกลับทันที กับ ดูดซับรังสีจากแดดไว้ให้เข้าสู่ผิวหนังโดยตรง นี่คือความต่างหลักๆ ของ Physical ที่ไม่ออร์แกนิก กับแบบ Chemical ที่เป็นออร์แกนิก… ซึ่งกันแดดแบบไม่ออร์แกนิกจะประกอบไปด้วยสารเคมีต่างๆ อย่าง ซิงก์ออกไซด์ หรือ ไทเทเนี่ยมออกไซด์ ที่จะฉาบลงบนผิวเหมือนเกาะชั้นหน้าสะท้อนไม่ให้รังสีอันตรายจากแสงอาทิตย์เข้าสู่ชั้นผิวได้เลย ส่วนแบบออร์แกนิก ก็แน่นอน...ไม่แข็งแกร่งเท่าเคมีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นกันแดดชนิดนี้จะทำหน้าที่เคลือบไปบนผิวและดูดซับรังสีจนรังสีเหล่านั้นไม่รุนแรงที่จะทำอันตรายผิวได้
PS. กันแดดแบบออร์แกนิกจำเป็นต้องทาก่อนโดนแดดต่ำๆ 30 นาที เพื่อให้สารสกัดต่างๆ เคลือบและเซ็ทตัวบนผิวได้
แบรนด์ฝั่งตะวันตก หรือ แบรนด์ฝั่งตะวันออก?
มาพูดถึงเรื่องแหล่งที่มากันบ้าง… ถ้าเป็นเรื่องกันแดด ทางเราก็แอบเทคะแนนให้แบรนด์ฝั่งตะวันออกไปซะส่วนใหญ่ เพราะ… รู้ไหมว่านวัตกรรม PA++++ ที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ มีต้นกำเนิดมาจาก “ญี่ปุ่น” - - Protection grade of UVA ชื่อเต็มๆ ของคำว่า PA ซึ่ง เครื่องหมาย + ข้างหลังนี้ ก็จะเป็นเหมือนตัวที่ชี้วัดว่าโพรดักท์ชิ้นนั้นๆ มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA ได้มากแค่ไหนนั่นเอง แต่...ปัจจุบันโพรดักท์จากฝั่งตะวันตกก็มีนวัตกรรม PA กับ 4 บวก มาให้เลือกใช้แล้วเหมือนกันนะคะ
จะฆ่าปะการังตายไหม?
ใช่สิ... แต่! ไม่ใช่ทั้งหมดที่จะส่งผลกระทบต่อปะการังใต้น้ำ - - มากกว่า 14,000 ตัน ปริมาณของสารเคมีในกันแดดที่ปนเปื้อนลงน้ำทะเลทั่วโลก ข้อมูลจากการตีพิมพ์ของ Archives of Environmental Contamination and Toxicology แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ แค่เพียงหยดเดียวก็แรงพอจะทำร้ายปะการังได้แล้ว… ซึ่งส่วนผสมในกันแดดที่ก่อให้เกิดผลกระทบกับปะการังคือ “Oxybenzone” หรือ “Benzophenone-3” จำสองชื่อนี้ไว้ให้แม่น แล้วก่อนจะเลือกซื้อก็อย่าลืมดูข้างฉลากด้วยว่ามีสารอันตรายพวกนี้อยู่รึเปล่า ไม่ก็ลองหาป้าย Reef - Safe ที่บรรจุภัณฑ์ดูก็ได้ เพราะกันแดดเหล่านี้ก็ยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันอันตรายจากรังสี UV ได้อยู่จากส่วนผสมชนิดอื่นๆ เช่น ซิงก์ออกไซด์ หรือ ไทเทเนี่ยมออกไซด์
ไปเที่ยวทะเลแล้วผิวจะไม่คล้ำลง?
ฟังก์ชั่นของกันแดดคือกันรังสี UV ไม่ให้ทำร้ายผิวได้ก็จริง แต่ก็คงไม่กันให้ผิวหนังของเราไปสัมผัสกับแสงแดดได้แบบ 100% จริงไหมล่ะ? สีผิวที่คล้ำขึ้นเป็นอีกหนึ่งปฏิกิริยาการป้องกันตัวเองของผิวหนังเราเมื่อโดนแสงแดดมากเกินไป ซึ่งเมลานินของผิว หรือ เม็ดสีผิว จะมีการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้คล้ำขึ้นชั่วคราว ขอย้ำอีกครั้งว่า “ชั่วคราว” เพราะมันคือกระบวนการที่ผิวเราเตรียมพร้อมจะรับมือกับรังสี UV ที่จะเข้าทำร้ายผิวในรูปแบบต่างๆ แต่ไม่ต้องกังวลไป… เพราะเม็ดสีที่เข้มขึ้นจะค่อยๆ จางไปเอง
PS. หลายคนอาจอยากได้ลุคแบบ Sun-kissed Skin แบบเก๋ๆ ช่วงนี้เราแนะนำว่าใช้เมกอัพที่ทำให้ผิวดูแทนขึ้น ดีกว่าไปนอนอาบแดดแล้วเสี่ยงให้ผิวถูกทำร้ายไปเรื่อยๆ จะดีกว่า
เอาเป็นว่าทั้งหมดนี้เป็นคำถามที่คนถามกันบ่อยมากๆ เราเลยไปรีเสิร์ชพร้อมหาคำตอบแบบสั้นๆ มาทิ้งไว้ทุกคนตรงนี้แล้ว หวังว่าสำหรับใครที่กำลังมองหากันแดดสำหรับทริปนี้ หรือ ทริปหน้าๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ก็น่าจะได้ไอเดียไว้ไปใช้เลือกซื้อกันแล้วนะคะ :)
Credit Photos : SAINT LAURENT RIVE DROITE 37.2