การพบแพทย์เพื่อดูแลสภาพจิตใจ
ไม่ได้เแปลว่าบ้า!!
สภาพจิตใจของมนุษย์ ถือเป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิต ยิ่งในโลกปัจจุบันที่หมุนเร็วเหมือนติดจรวด ทั้งการปรับเปลี่ยนของสังคม ความรวดเร็วของการสื่อสาร และรวมถึงการก้าวกระโดดของวิวัฒนาการ ที่สร้างเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ประโคมเข้ามามีส่วนในการใช้ชีวิตของมนุษย์สัตว์สังคมอย่างพวกเราอีกตั้งเท่าไหร่…
โลกทุกวันนี้หมุนไปเร็วยิ่งกว่าคลื่น 5G เสียอีก โลกโซเชี่ยลก็มีอิทธิพลมากๆ ในชีวิตยิ่งกว่าโลกแห่งความจริงเสียอีก ทั้ง Digital Asset , Metaverse , Cryptocurrency หรือแม้แต่กระแส NFT และอีกมากมาย
สำหรับใครหลายๆ คน ก็บอกว่าโลกใหม่มันน่าสนุกดีออกนี่ ~ บางคนสนุกไปกับมันได้อย่างมีสติรู้เท่าทัน หรือแยกแยะสิ่งต่างๆ ทั้งบวกทั้งลบที่เกิดขึ้นได้อย่างดีก็ดีไป แต่บางคนล่ะที่หลงไปแบบไม่ได้มีสติยั้งคิด ยกตัวอย่างง่ายๆ ที่เห็นชัดในสังคมดิจิตัลก็เช่น บางคนใจฟูไปกับการชื่นชมจากคอมเมนต์เยินยอ และบางคนก็อาจจะดำดิ่งลงไปกับคอมเมนต์เชิงลบ… พวกเขาเหล่านั้นรับมือกับสภาพจิตใจที่ย่ำแย่กันอย่างไร?
มีคุณหมอท่านนึงเคยกล่าวไว้ว่า การมีสุขภาพที่ดีนั้น ย่อมหมายถึง ภาวะที่สมบูรณ์ของร่างกายและจิตใจ ไม่มีความเจ็บไข้ได้ป่วย และดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างดี ไม่มีความหวาดหวั่นพรั่นพรึง มีใจความตอนนึงว่า “สุขภาพจิต คือ สภาพชีวิตที่เป็นสุขมีอารมณ์มั่นคง สามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงมากๆ ได้ มีสมรรถภาพในการทำงาน และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ด้วยความพอใจ” - ศาสตราจารย์นายแพทย์ฝน แสงสิงแก้ว
และไม่ใช่แค่เพียงผู้ใหญ่อย่างเราเท่านั้นที่ต้องดูแลสุขภาพจิตสุขภาพใจ เด็กเล็กไปจนเด็กวัยรุ่นในโลกปัจจุบันก็ต้องการการดูแลด้านจิตใจเช่นเดียวกันทั้งนั้นแหละ สำหรับเรา มายาคติที่ว่าการเข้าพบจิตแพทย์แปลว่าคุณบ้า! นั่นไม่เป็นความจริงเลย การที่ คนปกติ เข้าพบผู้เชี่ยวชาญทางด้านการดูแลสุขภาพจิตนั้นดีจะตายไป เพราะเอาจริงๆ คุณไม่ต้องถึงขนาดใช้คำว่าบ้าหรอกถึงจะพบจิตแพทย์ได้ - - แค่คุณลองสังเกตดูจิตใจของตัวเองบ้างในการใช้ชีวิตประจำวัน อย่างเช่น ถ้าคุณเริ่มมีอารมณ์ดีสนุกสนานมากเกินไป ร่าเริงจนควบคุมตนเองไม่ได้มากไป ขาดความยับยั้งชั่งใจแบบแปลกๆ หรือคุณโกรธง่ายเกินไป ระงับความโกรธไม่ได้ หรือซึมเศร้ามากเกินปกติ มีอาการนอนไม่หลับ เบื่ออาหาร วิตกกังวล อาการเหล่านี้แหละที่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณน่าจะเริ่มคิดที่จะลองพบผู้เชี่ยวชาญด้านจิตใจดู เพราะอะไรที่มากไปน้อยไปนั้นไม่ได้ส่งผลดีกับสุขภาพกาย และ ใจ ของเราทั้งนั้น ความพอดีต่างหากที่จะทำให้ชีวิตจิตใจของคุณมีสุขได้แบบสม่ำเสมอ
การพบจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคุณก็แค่ต้องเปิดใจ เพราะการพบจิตแพทย์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แต่ก็ไม่แปลกที่เราจะรู้สึกกลัว หรือกังวล อย่าปล่อยให้กรอบมายาคติที่ว่าพบจิตแพทย์คือบ้า มาขังเราเอาไว้ อย่างเช่น เราไม่ควรปล่อยความเศร้าเอาไว้จนทำให้เราเป็นซึมเศร้า เพราะถ้าเราสังเกตตัวเองแล้วตัดสินใจเข้ารับการแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ แล้วได้แนวทางของการจัดการความเศร้าแบบที่ถูกต้องกลับมา มันจะทำให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นต่างหาก…
และถ้าคุณยังเป็นคนหนึ่งที่ยังไม่ได้ปรับตัวให้เท่าทัน หรือกระโจนก้าวไปในพายุการเปลี่ยนแปลงในโลกใหม่ได้อย่างรวดเร็วขนาดนั้น แล้วการดูแลจิตใจของคุณอีกล่ะ…มันพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนั้นได้จริงหรือเปล่า? ซึ่งในที่สุดถ้าคุณดูแลจิตใจตัวเองได้ดีก็โอเค แต่ถ้าคุณไม่สามารถก็ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญให้ช่วยดูแลน่าจะดีที่สุด
Photos : CK Fall 2021