Gucci Art Lab ประกอบด้วยห้องต่าง ๆ อันน่าตื่นตาตื่นใจ แต่ละห้องถ่ายทอดมุมมองอันเป็นเอกลักษณ์ตลอดเส้นทางการสร้างสรรค์ของเหล่านักออกแบบและช่างฝีมือของ Gucci อันได้แก่

ห้องสเก็ตช์ภาพ: จุดเริ่มต้นของกระบวนการสร้างสรรค์

เดินทางกลับไปยังจุดเริ่มต้นของกระบวนการสร้างสรรค์ 

• ห้องสเก็ตช์ภาพสะท้อนให้เห็นถึงจุดเริ่มต้นของกระบวนการสร้างสรรค์ผลงานของนักออกแบบที่เริ่มจากภาพ

สเก็ตช์

• จากภาพสเก็ตช์ ขึ้นเป็นแพทเทิร์นเพื่อให้ช่างสร้างต้นแบบ 3 มิติจากกระดาษ  ในห้องนี้จัดแสดงตัวอย่าง

แพทเทิร์นกระดาษที่ใช้เป็นต้นแบบสำหรับกระเป๋าถืออันเป็นซิกเนเจอร์ของ Gucci

• กระบวนการสร้างสรรค์ได้รับการถ่ายทอดจากนักออกแบบไปยังช่างผู้มีทักษะชั้นสูงในเมืองฟลอเรนซ์ ซึ่งสวมใส่เสื้อโค้ดแบบที่ผู้เข้าชมนิทรรศการได้รับ

ภายในห้องสเก็ตช์ภาพ มีการจัดแสดงเครื่องหนังราคาสูง กระเป๋าถือ และ Valigeria คอลเลกชันสำหรับการเดินทาง พร้อมกับภาพสเก็ตช์จากฝ่ายออกแบบ รวมทั้งวิดีโอแสดงการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ อาทิ Aphrodite, Ophidia, Horsebit, Jackie, และ Marmont โดยมีแพทเทิร์นของชิ้นงานหลากหลายเป็นองค์ประกอบหลักในการจัดแสดง

ห้องวัสดุ: วัสดุชั้นเลิศจากช่างฝีมือของ Gucci

สำรวจห้องวัสดุ สถานที่ที่ความชำนาญในงานฝีมือของ Gucci กลายเป็นรูปธรรม

• งานของช่างฝีมือของ Gucci เริ่มจากวัสดุที่มีคุณภาพชั้นเลิศ
• บนโต๊ะทำงานในเมืองฟลอเรนซ์ จัดแสดงวัสดุหลากหลาย นับตั้งแต่หนังราคาสูงอย่างหนังจระเข้ หนังนกกระจอกเทศ หนังงู ไปจนถึงผ้าชนิดต่าง ๆ อย่างผ้าไหม ลูกไม้ กำมะหยี่ และขนสัตว์ 
• ไม้ไผ่ แสดงถึงจิตวิญญาณอันเป็นนวัตกรรมที่เป็นบุคลิกเฉพาะตัวของ Gucci

• ในปีค.ศ.1947 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดการขาดแคลนวัสดุอย่างหนัง Guccio Gucci และช่างฝีมือชาวฟลอเรนซ์ผู้มีวิสัยทัศน์ ตัดสินใจใช้ไม้ไผ่ที่น้ำหนักเบาและทนทานมาทำเป็นหูจับกระเป๋าถือ
• หนังแบบเดิมตัดกันกับหูจับไม้ไผ่อย่างสง่างาม เป็นการท้าทายกฎเกณฑ์แห่งสุนทรียศาสตร์ในยุคนั้น

ภายในห้องวัสดุ จัดแสดงวัสดุชั้นเลิศอย่างหนังและผ้าชนิดต่าง ๆ รวมทั้งไม้ไผ่ เป็นองค์ประกอบหลักในการจัดแสดง

ห้องงานฝีมือ: ทักษะความชำนาญผสานงานศิลป์ 

พบกับกระบวนการอันซับซ้อนในการสร้างสรรค์งานออกแบบให้มีชีวิต

• งานออกแบบสร้างสรรค์ขึ้นโดยช่างฝีมือที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตตลอดทั้งกระบวนการ ทุกขั้นตอนดำเนินไปด้วยทักษะ ความชำนาญ และความพิถีพิถันในรายละเอียด
• การตัดและขึ้นรูปวัสดุเป็นกระบวนการที่ละเอียดอ่อนและต้องอาศัยประสบการณ์ของช่างฝีมือเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับวัสดุต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ห้องนี้แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของช่างฝีมือที่มีทักษะขั้นสูง ซึ่งสะท้อนผ่านกระบวนการผลิตที่แม่นยำและความงดงามทางศิลปะ อาทิ

• หนังราคาสูง: มีเพียงสายตาและฝีมือของผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นที่เข้าใจว่าจะดึงเอาคุณลักษณะของหนังจระเข้ออกมาได้อย่างไร รวมทั้งวิธีการตัดหนังเพื่อให้ได้ลักษณะตามที่นักออกแบบต้องการ
• ไม้ไผ่: การสร้างสรรค์หูจับกระเป๋าถือที่มีรูปทรงโค้ง ต้องใช้กระบวนการพิเศษใน Gucci Art Lab โดยช่างฝีมือที่ได้รับการฝึกฝนมาโดยเฉพาะ ช่างจะขึ้นรูปวัสดุด้วยการนำไปลนไฟ ซึ่งต้องอาศัยความรู้ความชำนาญตามสัญชาตญาณของช่าง ด้วยธรรมชาติของไม้ไผ่และการขึ้นรูปด้วยมือ ทำให้หูจับกระเป๋าถือทุกชิ้นมีลักษณะแตกต่างกัน ดังนั้น Gucci Bamboo 1947 และกระเป๋า Gucci Diana ทุกใบ จึงมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

อุปกรณ์อื่น ๆ ที่จัดแสดง: งานสร้างสรรค์อันเป็นมรดกของ Gucci

Gucci Art Lab ยังจัดแสดงอุปกรณ์อื่น ๆ ที่บ่งบอกความสามารถของช่างฝีมือ ความชำนาญ ความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนกระบวนการที่พิถีพิถัน ซึ่งกลายเป็นมรดกของ Gucci

• หนังและผ้า 

การตัดวัสดุอย่างหนังและผ้าเป็นกระบวนการที่ละเอียดอ่อน ซึ่งต้องอาศัยสายตาและฝีมือของช่างผู้ชำนาญการเพื่อสร้างสรรค์งานออกแบบได้ตามที่นักออกแบบต้องการ นับเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับหนังที่มีราคาสูง ซึ่งมีคุณค่าภายในตัวเองและมีการนำมาใช้งานด้วยวิธีการเฉพาะอย่าง

• ฮาร์ดแวร์ 

หัวเข็มขัด

• จัดแสดงขั้นตอนต่าง ๆ ในกระบวนการสร้างสรรค์ฮาร์ดแวร์อันเป็นเอกลักษณ์ ที่ใช้ประดับกระเป๋าถือ แอคเซสโซรีต่าง ๆ และรองเท้า

ไม้ไผ่ 

• จัดแสดงกระบวนการทางเทคนิคชั้นสูงในการสร้างสรรค์หูจับกระเป๋าถือไม้ไผ่ทรงโค้ง

• ขั้นแรก ช่างฝีมือจะเลือกไม้ไผ่ที่มีคุณภาพดีที่สุด
• จากนั้น ทำให้ไม้ไผ่อ่อนตัวลงโดยการนำไปลนไฟด้วยมือ เพื่อขึ้นรูปให้เป็นทรงครึ่งวงกลม
• เคลือบหูจับกระเป๋าด้วยแลกเกอร์หลายชั้นและนำไปอบเพื่อให้ได้สีน้ำตาลทองเป็นประกายโดดเด่น

• ด้วยกระบวนการอันพิถีพิถันนี้ ทำให้หูจับกระเป๋าถือที่ได้ทุกชิ้นมีลักษณะต่างกันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

แพทเทิร์นและตัวอักษร 

• จากภาพสเก็ตช์ ขึ้นเป็นแพทเทิร์นเพื่อให้ช่างสร้างต้นแบบ 3 มิติจากกระดาษ 
• ตัวอักษรแต่ละรูปแบบได้รับการออกแบบขึ้นตามความต้องการของลูกค้า เพื่อสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีบุคลิกเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล

Gucci Art Lab นำเสนอประสบการณ์อันน่าตื่นตาตื่นใจที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการสร้างสรรค์งานช่างฝีมือ งานศิลป์ที่พิถีพิถัน และนวัตกรรม เป็นเครื่องแสดงถึงความทุ่มเทในการรักษาขนบธรรมเนียมของแบรนด์ขณะที่ยังคงเดินหน้าขยายขอบเขตความคิดสร้างสรรค์ผ่านการนำเสนอวิธีการทำงานเบื้องหลังกระบวนการสร้างสรรค์งานศิลป์ชั้นเลิศ