Quiet Luxury

เอ๊าท์แล้ว หรือ ไม่ใช่เราตั้งแต่แรก

By LuxmiDevi
13.03.2567
133

ในโลกสมัยใหม่อะไรๆ ก็เร็วไปหมด มาไวไปไวแบบยังไม่ทันตั้งตัว ช่วงก่อนหน้านี้เทรนด์ Quiet Luxury หรือ เทรนด์การใช้ของแบรนด์ลักซัวรี่ ราคาสูงแบบไม่แสดงแบรนด์ หรืออธิบายยาวๆ หน่อยก็จะได้ความทำนองว่า เลือกใช้แต่ของหรูที่ดีไซน์ไม่ตะโกนบอกว่านี่คือของของแบรนด์อะไร - - ประมาณนี้

ซึ่งเกิดเป็นกระแสอยู่พักใหญ่นานนับปี ติดเทรนด์ในแพลตฟอร์มออนไลน์อยู่ทั่วโลก เป็นอะไรที่ใครๆ หลายคนให้ความสนใจ ขนาดบางคนไม่ใช่คนสายแฟ แต่ก็ยังอยากจะรู้ว่ามันคืออะไร

มีนักโซเชี่ยลหลายๆ คนทำคอนเทนต์บอกสังคมว่าต้องแต่งตัวอย่างไรถึงจะอินเทรนด์นี้ โดยหยิบจับเอาเสื้อผ้าดีไซน์เรียบ อย่างเชิ้ต ทีเชิ้ตสีเรียบ โทนขาว โทนฟ้าอ่อน เอิร์ธโทน มาใส่กับกางเกง หรือ กระโปรงแบบเรียบๆ อะไรก็ว่าไป (แต่รวมๆ ก็คือ เป็นสไตล์ที่เรียกว่ามินิมัล จะเข้าใจและเห็นภาพตรงกันมากกว่า) และบอกว่านี่คือการแต่งตัวแบบ Quiet Luxury โดยไอเท็มต่างๆ ที่หยิบจับมาคือ แบรนด์ High Street อย่าง Zara , H&M , Uniqlo - - ซึ่งนี่ก็คือ การตีโจทย์ผิดตั้งแต่แรกแล้วสำหรับเรา

Quiet Luxury สำหรับเราคือการพูดถึงเสื้อผ้าเรียบๆ ดีไซน์ธรรมดา อารมณ์ everyday wear  อย่างเชิ้ต เดรส ทีเชิ้ต นิตแวร์ เดนิม รองเท้า กระเป๋า จากแบรนด์ลักซัวรี่ที่มักออกแบบสินค้าให้ดูธรรมดา เรียบง่าย แต่เน้นที่กรรมวิธีการผลิต วัสดุ ความประณีต อย่างแบรนด์ Rolo Piana , The Row , Bottega Veneta , Max Mara , Jil Sander และอีกหลายแบรนด์ที่เราก็ไม่ค่อยจะคุ้นชื่อแบรนด์ เช่นกัน ซึ่งจากสิ่งที่เรากล่าวมา ถึงที่มา และวิธีการคิด การออกแบบ การผลิตของไอเท็มจากแบรนด์เหล่านี้ ทำให้สินค้ามีราคาที่สูงกระโดดจากเสื้อผ้า fast fashion ตามท้องตลาดทั่วไปมากๆ อยู่แล้ว - - ไม่ใช่เพียงแค่หยิบเสื้อผ้าอะไรก็ได้ที่ลักษณะใกล้เคียงกันมาแม็ตช์แล้วบอกว่านี่คือ Quiet Luxury

“เราไม่ใช่ลูกค้าของแบรนด์” - - หลายคนฟังแล้วเจ็บและไม่ยอมรับกับแนวคิดนี้ของเรา แต่นี่แหละคือความจริง เพราะลูกค้าของแบรนด์ที่เราพูดถึงคือ อย่างแรกสุดๆ คือ คุณต้อง afford ได้ นั่นหมายถึงการที่คุณสามารถเลือกจับจ่ายของจากแบรนด์เหล่านี้ได้โดยไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน หลายคนชอบพูดติดตลก หรือ จะเรียกว่าเหน็บแนมก็ไม่รู้ว่า...สินค้าลักซัวรี่พวกนี้ คือสินค้าฟุ่มเฟือย  “จะมีเงินอย่างเดียวไม่ได้นะต้อง…ด้วย ถึงจะซื้อของแพงขนาดนี้” นั่นเป็นค่านิยมที่คนหลายคนเข้าใจกันเอาเองมาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้

เพราะการที่คุณไม่สามารถซื้อของแบรนด์นั้นๆ ได้ หรือ ต้องใช้ความพยายามจนลำบากมากมาย นั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเราไม่ใช่ลูกค้าของแบรนด์ - - แต่เราเข้าใจว่าบางคนก็อยากลองอยากมี และเก็บเงินเพื่อนที่จะลองซื้อของพวกนั้นสักชิ้น จุดนั้นเราเคารพกับแนวคิดของพวกเขา เพราะอย่างน้อยพวกเขาเข้าใจว่ากำลังทำอะไรอยู่ และเลือกแล้วที่จะทำแบบนี้

การแต่งตัว สไตล์การแต่งตัว “มันคือรสนิยม ไม่มีอะไรผิดถูก” แต่การจะบอกว่าเขา เรา หรือ ใคร…เป็นคนสไตล์ Quiet Luxury นั่น จะพูดไปเรื่อยๆ ก็คงไม่น่าจะใช่ ไลฟ์สไตล์ของบุคคลนั้น รวมถึงการใช้ชีวิต หน้าที่การงาน ครอบครัว สิ่งแวดล้อม และอีกมาก คือ สารตั้งต้นที่หล่อหลอมสิ่งเหล่านั้นให้แต่ละคน

การที่ผู้คนบางกลุ่มเลือกซื้อเสื้อผ้าจากแบรนด์ลักซัวรี่มาตั้งแต่แรก นั่นเป็นเพราะเขา “สามารถ” แต่เขาจะเลือกแบบมินิมัล หรือ เลือกแบบตะโกนๆ  นี่ต่างหากที่เป็นตัวชี้วัดว่าเข้าชอบความเรียบง่าย หรือ ชอบการสนุกไปกับไอเท็มแฟชั่นแบบมากมายๆ ต่างๆ นาๆ พวกนั้น

การแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าเรียบหรูแสนแพงนี้ ไม่ได้เพิ่งมี แต่มีมานานแล้ว กับผู้คนที่เราเรียกว่าเค้าเป็นกลุ่มลูกค้าของแบรนด์ แต่ในบางแง่มุมบางคนก็ยังจะจำกัดความเพิ่มมาให้อีกคือ Old Money อธิบายง่ายๆ ว่า ผู้ดีเก่า - - แล้วก็มีคนใส่กรอบไปอีกว่าพวก โอลด์มันนี่ นี่ต้องแต่งตัวเรียบหรูกับเสื้อผ้าเรียบๆ เท่านั้น และแน่นอนเมื่อมีเก่าก็มีใหม่ คือ New Money ซึ่งก็ไปจำกัดความไปอีกว่า นิวมันนี่ หรือ เศรษฐีใหม่ คือ พวกชอบใช้ของแบรนด์แบบตะโกน โชว์ลายโชว์แบรนด์ ไปอีก - - มันไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป คนที่จะชอบแบบเรียบๆ คนที่ชอบแบบมันๆ มันจำกัดแค่คำเหล่านั้นได้ที่ไหนกันล่ะ

แต่แน่ล่ะโลกโซเชี่ยลสมัยนี้มันทำให้เราได้เห็นอะไรๆ เร็วขึ้นกว่าแต่ก่อน แน่นอนว่าจุดเริ่มต้นนั่นก็คือการที่เราเห็นจากดารา คนดังสายต่างๆ และก่อเกิดเป็นความสนใจ จนเริ่มมีคำว่า Quiet Luxury นี้ขึ้นมาจากเหตุการณ์ต่างๆ  นักโซเชี่ยลเริ่มขุดค้นว่าคนไหนใส่อะไร แบรนด์อะไร ราคาเท่าไร แล้ว กระแส” ก็พาเราไปสู่จุดเริ่มต้นของบทความ - - เราแค่อยากจะเสนอมุมมองว่า บางครั้งเทรนด์ต่างๆ เหล่านี้ มันไม่ได้เข้ากับเราเสมอไป หรือ บางเทรนด์ ก็แค่มีไว้ให้เราเรียนรู้ แต่ไม่ต้องพยายามทำตามก็ได้ หรือ มันน่าจะดีกว่ามั้ย ถ้าเราตีความเทรนด์เหล่านี้ หรือ ทำความเข้าใจกับมันให้มากกว่านี้อีกนิดก่อน แล้วค่อยตัดสินใจว่าเทรนด์นี้เราจะตาม หรือจะแค่ดู…

TAGS : -