3.1 Philip Lim
พลังแห่งมหานครนิวยอร์ก บทที่ 2
"นิวยอร์กในยามค่ำคืนนั้นเปิดทางไปสู่ความเป็นไปได้อันไม่สิ้นสุด ทางแยกที่มากมายนับไม่ถ้วนบนถนนหนทางในมหานครแห่งนี้ เปิดโอกาสสู่การค้นพบความเป็นตัวคุณนับพันรูปแบบที่จะสามารถเป็นได้ ในเมืองที่อาจนิยามด้วย ความดิบซึ่งไร้การปรุงแต่ง ความโรแมนติค และไร้ซึ่งคำขอโทษใดๆ" ~ ฟิลลิป ลิม (Phillip Lim)
คอลเลกชั่น Fall’23 คือบทที่สองแห่งเรื่องราวอันเกี่ยวกับนิวยอร์ก วันใดวันหนึ่ง วิถีทางใดทางหนึ่ง สถานที่บางแห่ง ที่ที่คอลเลกชั่น Pre-Fall ’23 ถือกำเนิดขึ้นและเปรยถึงคติความฝันของชาวอเมริกัน ซึ่งก็คือความหวัง หัวใจ และจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ คอลเลกชั่น Fall’23 คือการเข้าใจอย่างถ่องแท้และการปะติดปะต่ออันหมายถึงการแสวงหาตัวตนและการถอดรหัสอันนำมาสู่การสร้างสรรค์เสื้อผ้าจากการทดลองอย่างต่อเนื่อง กลางวันกลับกลายเป็นกลางคืนในตอนนี้ เรื่องราวที่เคยกำเนิดเกิดขึ้นในฟากฝั่งตะวันตกได้กลายไปเป็นความสง่างามในฝั่งตะวันออกซึ่งนั่นก็คือสไตล์แกสบี้ ในลุคนักศึกษามาดผู้ดีจากแถบอัพเพอร์ อีสต์ ไซด์ (Upper East Side) และนักเขียนทรูแมน คาโพที (Truman Capote) แต่แฝงไว้ด้วยการทำลายล้างและความเป็นหัวขบถ การบอกเล่าได้รับการต่อยอดเฉกเช่นเรื่องราวของมหานครแห่งนี้และคอลเลกชั่น Fall’23 ที่หมุนเวลาให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า เนรมิตให้ค่ำคืนมีความโรแมนติค ด้วยการใช้ชีวิตท่องไปในยามราตรี

นิวยอร์กคือเริงระบำอันปั่นป่วนจากความวุ่นวายและการแตกแยก แต่สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่นั้น ที่แห่งนี้มีความผูกพัน ถึงแม้จะเป็นเมืองของคนแปลกหน้าแต่คุณก็รู้สึกได้ว่ามันเปรียบเสมือนบ้าน จากย่านไชน่าทาวน์ (Chinatown) ไปจนถึงอัพเพอร์ อีสต์ ไซด์ (Upper East Side) คอลเลกชั่น Fall ‘23 ออกแสวงหาตัวตนผ่านเสื้อผ้าและสถานที่ต่างๆ ความมุ่งมั่นยังคงมีอยู่ต่อไปจากการแสวงหา การยอมรับและการสำนึกเพื่อหล่อหลอมตัวตนขึ้นมา มนต์ขลังของเมืองนี้ประกอบขึ้นจากสองสิ่งที่ว่า แม้คุณจะเป็นคนที่แตกต่าง แต่คุณจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยวที่นี่
สถาปัตยกรรมสไตล์เดคโค (Deco) อันสง่างามที่แฝงกลิ่นอายของสถาบันทางศาสนาในแบบ “มาดผู้ดีหัวขบถ” ที่ถูกจ้องมองในยามพลบค่ำ งานแพ็ทช์เวิร์ค (patchwork) ผืนผ้าและสตรีทแวร์สไตล์นิวยอร์กที่มีความทันสมัยถูกหลอมรวมอยู่ในคอลเลกชั่นฤดู Fall ‘23 อันต่อยอดมาจากปฐมบท นี่คือการเชื่อมโยงทั้งสองทัศนคติอันมีทั้งความเนี้ยบ และความดิบซึ่งไร้การปรุงแต่ง คอลเลกชั่นนี้ผสมผสานความถ่อมตน ความงดงามถูกเนรมิตให้โดดเด่นขึ้นด้วยการเผยให้เห็นถึงเส้นขอบที่ไม่เป็นระเบียบ การแลกเปลี่ยนและผสมผสานในความต่าง คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดความมหัศจรรย์ขึ้น
ถึงเรื่องราวที่ถักทอขึ้นจากย่านต่างๆ ลายตาราง ‘เฮสเตอร์’ (Hester) ในสไตล์นามธรรมและงานคอลลาจพริ้นต์ลายดอกไม้ที่ทำขึ้นมาใหม่นั้นบ่งบอกถึงความมุ่งมั่นของคอลเลกชั่นนี้ที่ต้องการเล่าถึงพื้นที่ต่างๆ ของนิวยอร์ก งานคอลลาจดอกไม้ (Floral Collage) เป็นการนำลายพริ้นต์เก่าๆ มาต่อกันเป็นชั้นๆ รวมถึงงานแพ็ทช์เวิร์คจากชุมชนผู้อพยพที่ถูกนำมาเย็บเข้าด้วยกันได้อย่างงดงามและส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น จากคะแนล สตรีท (Canal Street) ถึงย่านอัพเพอร์ อีสต์ ไซด์ (Upper East Side) และทุก ๆ ชีวิตซึ่งอยู่ระหว่างสองที่นี้ได้หลอมรวมตัวตนขึ้นมา และเรื่องราวความรู้สึกที่ซ่อนเร้นอยู่ในมหานครแห่งนี้

การทดลองใช้ผ้าเดนิมยังคงดำเนินต่อไป สำหรับคอลเลกชั่นนี้เกี่ยวข้องกับโครงชุดและผสมผสานการหดแนบลำตัวเข้ากับทรงโอเว่อร์ไซส์ อีกทั้งมีการลองเล่นกับงานแพ็ทช์เวิร์คและเลเยอร์ กระโปรงยาวระดับข้อเท้าที่ได้แรงบันดาลใจจากยุค 90’s มาในรูปทรงโอเวอร์ไซส์ที่สามารถสวมใส่ได้จริง ดูเท่ เรียบง่ายและมีความเก๋นั้น แม็ตช์กับเสื้อหนาวทรงคร็อปและแจ็คเก็ตตัวโคร่งที่มีโครงเด่นชัด
ไอเท็มชิ้นสำคัญอย่างไบเกอร์แจ็คเก็ตถูกนำกลับมาอีกครั้งด้วยการแม็ตช์เข้ากับชิ้นที่คาดไม่ถึงอย่างชุดเกาะอกสไตล์ไบเกอร์และกระโปรงทรงพอง ชุดเดรสจากหนังและผ้าคอตตอนอัดพลีทตกแต่งด้วยเข็มขัดที่เอว และงานตัดเย็บสไตล์เทเลอร์ที่เปิดเผยให้เห็นรายละเอียดได้อย่างดีเยี่ยม สไตล์ที่สื่อถึงความมาดผู้ดีหัวขบถถูกถ่ายทอดผ่านงานตัดเย็บสูทลายตารางและเสื้อเบลเซอร์สไตล์นักเรียนจับคู่กับกระโปรงผ้าสักกะหลาดจับพลีท กางเกงอัดพลีทโอเว่อร์ไซส์และกางเกงขาสั้นเอวสูงที่ดูคล้ายกับถุงกระดาษ มีการเย็บตกแต่งเป็นตัวเลขสัญลักษณ์ 3.1 เพื่อเป็นการฉลองเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่เป็นส่วนหนึ่งของนิวยอร์กมาเป็นเวลา 20 ปี
สำหรับแอ็คเซสเซอรีส์ชิ้นใหม่ของซีซั่นนี้คือกระเป๋าทรงบัคเก็ตที่มีชื่อว่า Signet ซึ่งมาพร้อมกับไซส์มินิ มีซิปรูดครอสบอดี้ได้ ชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์ของกระเป๋าได้แรงบันดาลใจจากแหวนประทับตราสไตล์คลาสสิคที่มีรูปทรงเป็นเอกลักษณ์และแฝงไว้ด้วยลายเซ็นเฉพาะตัว ส่วนวัสดุที่ใช้ในการสร้างสรรค์นั้นมีมากมาย ทั้งหนังลูกวัวเนื้อนุ่มมีความหรูไปจนถึงผ้าสักกะหลาดสีสดและวัสดุที่เหมาะกับการใช้งานอย่างผ้าไนลอนและหนัง ทั้งหมดนี้ถูกนำมาเนรมิตให้เป็นกระเป๋าทรงบัคเก็ตแบบไร้ทรง สำหรับใช้เดินทางระหว่างเมือง ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ดาวน์ทาวน์ หรืออัพเพอร์ อีสต์ ไซด์ ในนิวยอร์กก็ตาม กระเป๋าทรงบัคเก็ตขนาดมินิ และสไตล์ครอสบอดี้แบบมีซิปรูด กลายเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ 3.1 Phillip Lim ที่สามารถใช้ได้ตั้งแต่กลางวันไปจนถึงกลางคืน กระเป๋ามีขนาดใหญ่พอสำหรับใส่ของที่จำเป็นและสามารถใช้ได้อย่างสนุก

สำหรับรองเท้านั้นออกแบบมาเพื่อผู้หญิงที่มีความทันสมัยเพื่อใส่ได้ตั้งแต่ทำงานไปจนถึงวันสบายสบาย หรือจะใส่เดินทางระหว่างเมือง ก็มีสไตล์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาคือ Mercer ‘Derby’ และ Nell สำหรับ Mercer Derby เป็นรองเท้าผูกเชือกคล้ายชุดเดรสที่สร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยความชำนาญเพื่อสวมใส่เดินตามท้องถนนในย่านดาวน์ทาวน์ต่างๆ ตัวพื้นรองเท้าทำจากยางและผสมผสานเข้ากับความหรูหราได้อย่างกลมกลืนผ่านหนังลูกวัว นับว่าเป็นการผนวกความขบถไว้ได้อย่างลงตัว ส่วนรองเท้ารุ่น Nell เป็นรองเท้าส้นสูงรูปทรงใหม่ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเฉพาะสำหรับซีซั่นนี้เป็นรองเท้าแตะรัดส้นที่ดูล้ำขึ้นกว่ารองเท้ารัดส้นแบบผู้หญิง นอกจากนี้มีรองเท้าบู๊ทยาวและบู๊ทครึ่งน่อง ส้นรองเท้ามีลักษณะแหลมและสูง 65 มิลลิเมตรซึ่งเหมาะสำหรับใส่ในยามค่ำคืนและสำหรับเดินลุยไปได้ในย่านบาวเวอรี (Bowery) กล่าวได้ว่า คอลเลกชั่นฤดู Fall ‘23 เป็นภาคต่อที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับคอลเลกชั่นอันได้รับแรงบันดาลใจจากนิวยอร์ก นับเป็นการผสมผสานระหว่างเสื้อผ้ากับสถานที่ได้อย่างกลมกลืนเป็นหนึ่ง มหานครนิวยอร์คแห่งนี้เปรียบเสมือนอสูรกายไร้ขีดจำกัด แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเหมือนเกราะกำบังให้เราแสดงตัวตนออกมาได้อย่างเต็มที่ นี่คืออิสรภาพที่แฝงอยู่ตามทางเดินคอนกรีตและรอยแตกร้าวของเก้าอี้นั่งในรถไฟใต้ดิน อีกทั้งเป็นการสร้างสรรค์ไปอีกขั้นของเสื้อผ้าสำหรับสาวนิวยอร์กผู้มีความทันสมัยและแสวงหาความห้าวหาญได้อย่างมั่นใจ