วิวัฒน์การณ์ของ Burberry จากวิสัยทัศน์ของ Daniel Lee

ต้นแบบตู้เสื้อผ้าของอังกฤษยังคงเป็นจุดโฟกัสของการออกแบบในคอลเลคชั่นนี้ โดยเน้นการตัดเย็บให้กระชับเข้ากับรูปร่างมากขึ้น พร้อมทั้งลวดลายในสไตล์ อังกฤษกลางแจ้งโดยลายตาราง หรือลาย Check ถูกรังสรรค์ขึ้นใหม่จากผลงานที่ผ่านมา เป็นเหมือนการเฉลิมฉลอง ยังมีผ้าพันคอ Happy scarves ที่ผลิตในประเทศ สกอตแลนด์ทำจากผ้าขนแคชเมียร์ทอลายตารางเบอร์เบอร์รี่ (Burberry Check) แต่งด้วยพู่ (fringed) ตามชายขอบแนวตั้งของผ้าพันคอ

ไอเท็มสำคัญ ได้แก่ เทรนช์โค้ท คาร์โค้ท ดัฟเฟิ ลโค้ท ผ้าคลุมไหล่ ผ้าห่ม เสื้อคลุมพาร์กา แจ็คเก็ตสนาม แจ็คเก็ตสไตล์นักบินและบอมเบอร์แจ็คเก็ต สิ่งเหล่านี้มา พร้อมกับกระโปรงคิลท์ (kilts) ชุดกีฬาและเสื้อรักบี้ พัฟเฟอร์แจ็กเก็ตรังสรรค์มาจากหนังพร้อมดีเทลลาย Equestrian Knight Design (EKD)

ความประณีตยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นและการตกแต่ง ฮู้ดถูกออกแบบลงบนเดรสผ้าไหมซีฟอง ผ้าพันคอผ้าไหมถักเข้ากับวิสโคสแบบมีร่อง (viscose rib-knits) และ อินทรธนูที่ประดับบนไหล่ โดยมีซิปและกระดุมสตัดให้ผู้สวมใส่ปรับแต่งได้ตามต้องการ เพื่อความพอดีสำหรับรูปร่างของผู้สวมใส่

สีน้ำเงิน Knight blue เน้นความสว่างสดใส ไม่ว่าจะเป็นบนชายชุดนอนผ้าไหมพิมพ์ลายดอกแดนดิไลออน แจ็กเก็ตบุนวม หรือ แถบตะเข็บของเสื้อคาร์โค้ท พาเลทสีประกอบไปด้วย สีเหลือง (sherbet) สีชมพูอ่อน (cameo) สีเขียว (ivy), สีชมพูอมนำ้ตาล (rhubarb) สีเบส (trench) สีกากี (khaki) นำ้เงินเข้ม (knight blue) สีดำและสีขาว และมีลายพิมพ์ที่เพิ่มความสนุกสนาน

การตัดเย็บและเนื้อผ้าได้รับแรงบันดาลใจมาจากย่าน Savile Row โดยแจ็คเก็ตดีไซน์มาพร้อมปกทรงปลายแหลมและเอวเป็นทรงนาฬิกาทราย ซึ่งลายตาราง Prince of Wales และลายตาราง houndstooth check บนเสื้อแจ็คการ์ด ได้รับการรังสรรค์ขึ้นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนสี ขนาด แต่ยังคงสไตล์คลาสสิก กระเป๋าซิปบนเสื้อโค้ท เสื้อแจ็กเก็ต และกางเกงได้รับแรงบันดาลใจมาจากชุดเล่นสกีของผู้หญิงในยุค 1920 การวางซิปที่ต้นขาของกางเกงชวนให้นึกถึงชุดนักบิน แบบวินเทจ

ผ้านิตยังคงลวดลายแบบดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นลายตาราง Prince of Wales และลายอาร์ไจล์แบบภาพวาด ที่ถักทอด้วยเทคนิคอินทาร์เซียเสื้อสเวตเตอร์ คริกเก็ต และ สเวตเตอร์เดรสซึ่งมีรากฐานมาจากความคุ้นเคยในดีไซน์ที่ใหม่ขึ้น

กางเกงยีนส์และแจ็กเก็ตเดนิมแต่งขอบและปลายแขนด้วยลวดลายของดอกกุหลาบ EKD ถูกตกแต่งโดยการถักที่ด้านหลังของเสื้อผ้า ด้านในของชายเสื้อ หรือพิมพ์ลงบนแผ่นยางเป็นรูปทรงนูนของลาย EKD เพื่อประดับบนชิ้นงาน ดีไซน์ของกระเป๋าและรองเท้าได้รับการพัฒนาทั้งการแต่งขอบด้วยขนสัตว์ลายตาราง และ นำมาเรียงซ้อนกันทั้งสองด้าน

กระเป๋า Knight โดดเด่นด้วยตัวล็อครูปหัวม้าติดบังเหียน สามารถปรับขยายขนาดได้หลายขนาด ดีไซน์หนังนวม และกระเป๋าบัคเก็ตแบบใหม่ที่รังสรรค์มาจากขนแกะ กระเป๋าสะพายข้าง Shield Sling ที่ทำจากหนังย่นหรือผ้าแจ็คการ์ดทอลายตาราง Prince of Wales และเผยโฉมกระเป๋ า Shield tote ที่ทำจากหนังบุนวมพร้อมตกแต่ง ลายนูนเป็นลาย EKD นอกจากนี้ยังมีกระเป๋า Muff ซึ่งเป็นกระเป๋าหนังใบใหม่ และกระเป๋า Peg ที่ถักเป็นลายตารางอันเป็นลายเอกลักษณ์ Burberry พร้อมที่ปิดด้วย หมุดทรงที่หนีบผ้า

รองเท้า Equestrian Stirrup tall boots มีส้นค่อนข้างสูง ในขณะที่รองเท้า Stride boots ใช้หนังเฉพาะที่สามารถยืดหยุ่นเข้ากับรูปทรงขาได้เป็นอย่างดี รองเท้าหนังเงา Baby pumps มาพร้อมทรงโค้งมน รองเท้า Peep และรองเท้าบูทมาพร้อมดีเทลซิป รองเท้า Sweep pumps โดดเด่นด้วยการตกแต่งขอบโดยการใช้ ผ้าถัก รองเท้าส้นสูงรัดส้น Ruff มาพร้อมผ้าถักสีเมทัลลิคในส่วนบนของรองเท้า รองเท้า Trainers และรองเท้า Creeper มาพร้อมผ้าทอลายตาราง บนส่วนบนของ รองเท้า รองเท้าผ้าใบ Bubble หลอมขึ้นรูปด้วยยางทั้งหมด และรองเท้า Loafers ตกแต่งฮาร์ดแวร์ลวดหนาม รองเท้าบูทยาง Marsh มาพร้อมความใสของยางและซับ ในลายตารางที่สามารถมองผ่านได้

เผยโฉมเครื่องประดับของคอลเลคชั่นนี้ด้วย ต่างหูทรงเกราะ ต่างหูห่วง ต่างหูทรงแหลมและทรงกุหลาบ นอกจากนี้ยังมี แว่นกันแดดทรงนักบินที่ได้พัฒนามาจากแว่น สไตล์ aviator สีสัน ลายพิมพ์ ผ้าแจ็คการ์ด ผ้าถัก ได้ถูกผสมผสานและสวมใส่ตั้งแต่หัวจรดเท้า ยังมี เสื้อฮู้ด หมวกบักเกต กางเกงรัดรูป จนถึง กระเป๋าและรองเท้า ที่เข้ากันอย่างลงตัว โดยครั้งน้ีมีการใช้นำ้เป็นองค์ประกอบสำคัญของลายพิมพ์รูปหงส์และรูปเป็ด และยังใช้ไอเดียจากผ้ากันน้ำอีกด้วย